ศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 ศูนย์บริการวิชาการ ร่วมกับ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเขาวัง และชุมชนบ้านเขาวัง ตำบลหินตก อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดกิจกรรม “เด็กรักษ์ป่าสืบทอดวิถีภูมิปัญญาชุมชนบ้านเขาวัง” ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเขาวัง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนองพระราชดำริโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำ ริฯ (อพ.สธ.) ในกิจกรรมที่ 4 การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พันธุกรรมพืชท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการอนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาการใช้ประโยชน์จากต้นกะพ้อของชุมชนอย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการวิจัย “กะพ้อ : การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนในจังหวัดนครศรีธรรมราช” โครงการ อพ.สธ. มหาวิทยาลัยลักษณ์ โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 120 คน ประกอบด้วยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3-6 โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเขาวัง นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย สำนักวิชาศิลปศาสตร์ นำโดย อาจารย์ธีรวัฒน์ กล่าวเกลี้ยง และ นักศึกษาสาขาวิชานิเทศศาสตร์ สำนักวิชาสารสนเทศน์ศาสตร์ นำโดย ผศ.ดร.ฟารีดา เจะเอาะ พร้อมด้วย คณะทำงานจากศูนย์บริการวิชาการ คณะครูโรงเรียน ตชด.บ้านเขาวังและแกนนำชุมชนบ้านเขาวัง ซึ่งเป็นการบูรณาการการเรียนรู้ร่วมกันของนักเรียนในงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน กิจกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกิจกรรมสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ของโรงเรียน ตชด.บ้านเขาวัง ร่วมกับงานการเรียนการสอนการเขียนร้อยแก้ว ของสาขาวิชาภาษาไทย และการเขียนบทวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ ของสาขาวิชานิเทศศาสตร์ โดยอาศัยประสบการณ์เรียนรู้จริงจากวิถีชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ระบบนิเวศต้นน้ำ
ในการจัดกิจกรรมเด็กรักษ์ป่าฯ ครั้งนี้ มี ร.ต.อ.สมศักดิ์ หนูภักดี ครูใหญ่โรงเรียน ตชด.บ้านเขาวัง ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรม จัดให้มีฐานการเรียนรู้ 6 ฐาน การเรีนรู้ ได้แก่ ฐานเรียนการเดินป่าเรียนรู้ระบบนิเวศต้นน้ำริมห้วยชายคลอง ฐานเรียนรู้พันธุ์ไม้ท้องถิ่นในสวนสมรม ฐานเรียนรู้การทำขนมต้มใบกะพ้อ ฐานเรียนรู้การสานกลห่อจำปา ฐานเรียนรู้การสานหมาต้อ และฐานเรียนรู้การขยายพันธุ์พืช ซึ่งนักเรียนนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมได้ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศและวิถีภูมิปัญญาการใช้ประโยชน์พันธุ์ไม้ท้องถิ่นของชุมชน โดยมีปราชญ์ผู้รู้ครูภูมิปัญญาในชุมนเป็นวิทยากรในการให้ความรู้และสอนการฝึกปฏิบัติให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติให้สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งนอกการได้ปลูกฝังจิตสำนึกในการตระหนักในคุณค่าและการใช้ประโยชน์ของทรัพยากรท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นโอกาสที่ลูกหลานจะได้เรียนรู้สืบทอดภูมิปัญญาของพ่อแม่ในการนำวัสดุท้องถิ่นมาใช้ประโยชน์เป็นช่องทางในการสร้างรายได้เสริม ลดรายจ่ายในครัวเรือน ซึ่งส่งผลต่อการใช้อนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศป่าต้นน้ำและใช้ประโยชน์ทรัพยากรของชุมชนอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน